วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

ตำบลในเวียง เดินเรื่องชวนกันตั้งสภาองค์กรชุมชน

ขออนุญาตท่านทั้งหลายที่จะบันทึกไว้ในนี้

จากวันที่ทำสัญญากับ พอช. คณะกรรมการโครงการ "ชวนกันตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบลในเวียง" ได้พบปะกันหลายรอบ
รอบละ 2 คน 3 คน 5 คน วันนี้ 15 คน

เกิดค่าใช้จ่ายจริง ๆ คือวันนี้ แต่ก็ต้องเบิกของวันอื่น ๆ ย้อนหลัง เพราะเพิ่งเบิกจากบัญชีในวันนี้

ไม่ได้นับที่เจอกันในงานอื่น ๆ ซึ่งก็มีผลในการพูดคุยวันนี้เหมือนกัน



วันนี้ข้าพเจ้าไปถึงที่ประชุม 10 โมงตรง เรานัดกันที่บ้านประธานชุมชนทุ่งต้อม พี่จีระพันธุ์ จันทร์ดี เตรียมโต๊ะเก้าอี้ไว้พร้อมมสำหรับคน 25 คน มีคนมารอแล้ว 1 ข้าพเจ้ากางขาตั้งบอร์ด เขียนไว้ 1 แผ่นติดฝา

พอมากันได้ 6 คน ก็พูดคุยกันอย่าง เบรคไม่อยู่ หยอกล้อ เย้าแหย่กันอหอมปากหอมคอ
แต่ละคนมีประสบการณ์ออกมาเล่าได้อย่างสนุกสนาน

ถ้าฟังดี ๆ ข้อด้อยของตัวแทนกลุ่มหนึ่งนั้นจะพบคำตอบในกลุ่มถัดไป

เป็นเราเองที่ไม่สามารถเขียน จับเวทีให้รื่นไหล แต่ที่สุดแล้วก็ให้กรอกข้อมูลไว้ก่อน

ที่น่าสนใจคือ แกนนำบางคนบอกว่า

1.เวทีให้แสดงความคิดโดยอิสระแบบนี้หาได้ยากในที่ประชุมอืื่น ๆ เพราะต้องรับโดยดี ไม่มีบรรยากาศเอื้อให้แถลงค้านหรือเสนอความเห็นที่แตกต่าง
2. อยากรวมกลุ่มแกนนำเพื่่อแสดงความเข้มแข็ง เพื่อนำเสนอประเด็นที่ต่างจากฝ่ายปกครอง ฝ่ายบริหาร รวมทั้งทวงสิทธิ์ที่จะได้สวัสดิการ ได้ทรัพยากรมาจัดการอย่างสะดวกมากขึ้นในการบริการชุมชน
3. ซึ่งแท้จริงแล้ว แกนนำหลายคนก็ระลึกไม่ได้ว่า เขามีสิทธิ์นั้นมาพร้อมกับงบประมาณแล้ว แต่มองไม่เห็นเอง

แต่วันนี้กลุ่มที่น่าสนใจคือ กลุ่มนักมวยเก่า ที่เข้มแข็งมากๆ

เขามีการตั้งกลุ่มมาหลายปีแล้ว มีการจัดสวัสดิการให้เพื่อนสมาชิก รวมทั้งการเยี่ยมเยือนยามป่วยไข้ หรือ เสียชีวิต
สมาชิกบางคนเคยต่อยกันบนเวทีมาแล้ว ถึง 5 เวทีก็มี ตอนมาเลี้ยงสังสรรค์กัน ก็ยังเคยชวนกัน "มึงมาเอากับกูแหมสักรอบก๊ะ?"

ปัจจุบันนี้มีค่ายมวยในจังหวัดแพร่มากเกิน 20 ค่าย แต่ไม่มีสนามในจังหวัดให้นักมวยได้เจอกัน ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีงานวัด งานลอยกระทง การละเล่นอย่างหนึ่ง (หรือเรียกว่า มหรสพ?) ก็คือมวย บางงานต่อยเป็น 2 รอบด้วยซ้ำ ก่อนทุ่ม กับหลังสองทุ่ม

ไม่แน่นะ ในปลายเดือนตุลาคม 2554 นี้ มีงานศพอดีตเจ้าอาวาสวัดพระร่วง อาจมีมวยย้อนยุคให้คนแพร่ได้ชมกันมั่งก็ได้

จำนวนสมาชิกของชมรมตอนนี้มี ประมาณ 100 คน คนที่มาเข้าร่วมนั้นอย่างน้อยก็ออกจากอาชีพนักมวยมาแล้ว 20 ปี คนที่เลิกต่อยมวยใหม่ ๆ มักจะมองผ่านชมรม กว่าจะเห็นประโยชน์ารรวมกลุ่มก็เข้าสู่วัยกลางคนล่วงไปแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น